540 บาท
COMPANY PROFILE
บริษัท กราวิเทคไทย เป็นบริษัทสาขา ของบริษัท กราวิเทค (Gravitech) ซึ่งตั้งอยู่ที่ รัฐเนวาด้า สหรัฐอเมริกา (Nevada, USA) ก่อตั่งเมื่อปี 2006 โดย ดร.ชานนท์ ตุลาบดี ซึ่งเป็นวิศวกรชาวไทย บริษัทประกอบการทางด้าน ออกแบบและผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และไมโครคอนโทรลเลอรบริษัท ได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดมาจนทางบริษัท มีโครงการ ขยายฐาน การผลิตจากสหรัฐอเมริกามายังประเทศไทย
ผมมาศึกษาต่อที่อเมริกาตั้งแต่อายุ 15 ปี หลังจากจบมัธยมต้น ที่ รร.อัสสัมชัญ บางรัก หลังจากจบการศึกษาคณะวิศวกรรม อิเล็กทรอนิกส์ ทางบริษัท GE (General Electric) ก็ได้มารับตัวเข้าทำงาน ผมทำงานอยู่กับ GE ร่วม 9 ปี และระหว่างนั้น บริษัทได้ส่งให้ศึกษาต่อจนจบปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัย University of Nevada Reno ผมได้รับเชิญจากทางมหาวิทยาลัย ให้มาสอนในตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์วิชาไมโครโปรเซสเซอร์ระดับสูง ทุกวันนี้ยังสอนและช่วยงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยนี้อยู่ ส่วนตัวผมชอบงานด้านอิเล็คทรอนิกส์ตั้งแต่เด็ก เรียกได้ว่ามันเป็นทั้งงานหลัก และงานอดิเรกของผม ในวงการ DIY หรือ Hobbyist ผมเป็นคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลัง Arduino, Hacker space, Maker และอีกหลายๆองกรค์ โดยก่อนที่จะมาศึกษาต่อ ที่อเมริกา ผมได้ตั่งปณิธานและให้คำมั่นสัญญาไว้ว่าจะนำความรู้กลับไปพัฒนาประเทศไทย และจะสร้างให้ไทย็นแหล่งผลิต เครื่องใช้อิเล็คทรอนิกส์ เสมอประเทศ ญี่ปุ่น จีน และเกาหลี เราจะมีสินค้าที่เป็นแบรนด์ของเราเองเพื่อส่งขายทั่วโลก
เริ่มต้นที่ผมออกแบบแผงวรจร ที่ใช้ในการค้นคว้าวิจัยงานทางด้านงานอิเล็คทรอนิกส์ส่วนตัว ทุกครั้งที่สั่ง PCB จะต้องสั่งเป็นจำนวนมาก ผมเลยลองประกอบบอร์ดที่สั่งมาทั้งหมด เริ่มวางขายบนเวปไซต์ EBAY จึงทำให้ผมรู้ว่า บอร์ดทดลองบางชนิดที่ใช้สำหรับ การค้นคว้าทดลองนั้น มีคนจำนวนมากที่ต้องการ เหมือนเรา เช่นพวก Breakout Board เป็นต้น จากนั้นผมจึงเริ่มออกแบบและผลิตบอร์ดพวกนี้มาขาย เป็นหลัก ด้วยประสบการณ์ที่ผมคลุกคลีอยู่กับหลายๆวงการ เช่น วงการ Professional (ประสบการณ์ ที่ต้องติดต่อกับลูกค้าและซัพพลายเออร์บริษัทใหญ่ๆตอนที่อยู่ GE กว่า9ปี), วงการการศึกษา (ประสบการณ์จากผู้ช่วยศาสตราจารย์ กว่า6ปี) และวงการมือสมัครเล่น (ได้จากงานอดิเรก และอยู่เบื้อง หลังองค์กร open source ต่างๆ) ทำให้ผมมีความรู้ ความเข้าใจในความต้องการของตลาดเป็นอย่างดี ทำให้สินค้าที่ Gravitech ออกแบบและผลิตออกมากว่าร้อยรายการ ไม่มีรายการไหนที่ขายไม่ได้เลย แม้แต่ชิ้นเดียว ในปี 2009 ผมตัดสินใจเช่าพื้นที่โรงงานกว่า 200 ตารางเมตร และลงทุนซื้อเครื่องจักร ในการผลิตแบบครบวงจร หลังจากนั้นบริษัทก็ได้มีผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในทุกๆปี
เนื่องจากบริษัทกาวิเทค มีลูกค้าทั่วโลกที่รอคอยสินค้าใหม่ๆอยู่เป็นจำนวนมาก และตามที่ผมได้ให้ปณิธาน ไว้ว่า จะกลับมาพัฒนาประเทศไทยให้มีชื่อเสียงทางด้านอิเล็คทรอนิกส์ บริษทเลยขยายมาตั้งสาขาอยู่ที่ ประเทศไทย เราได้มีการรวบรวมบุคคลที่มีความสนใจและมีความมุ่งมั่น ในการวิจัยและพัฒนาสินค้า ด้านอิเล็คทรอนิกส์ เพื่อมาร่วมกันสร้างความฝันนี้ให้เป็นจริง และผมมีความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักย ภาพและทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพไม่แพ้ชาติอื่นในโลก ผมต้องการนำเทคโนโลยีเข้าไปพัฒนาแผ่นดิน เกิดของผม และที่สำคัญที่สุดคือต้องการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาให้คนไทยได้เรียนรู้ และนำไปพัฒนา ให้เกิด เป็นสิ่งประดิษฐ์และสินค้าใหม่ๆ
ทีมของเราจะเน้น วัยรุ่นไฟแรง กล้าคิด กล้าทำ กล้าพูด กล้าตัดสินใจลองผิดลองถูก ใฝ่เรียนรู้ มีความรับผิดชอบ ความคิดสร้างสรรค์ ความคิดริเริ่มที่แปลกแหวกแนว ทำงานรวดเร็ว และความสามารถทำความเข้าใจ และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ตอบสนองสินค้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว ผิดพลาดบ้างไม่เป็นไร เราจะเรียนรู้ ศึกษา พัฒนา และก้าวไปด้วยกัน เราต้องการที่จะสร้างทีมจำนวน 10-20 คน และเน้นวิธีกระจายงานและบริหารงาน ให้ฟรีแลนซ์หรือบริษัทอื่นทำเป็นหลัก เราใช้พนักงานไม่เยอะมาก ทำงานอย่างฉลาด และมีอิสระในความคิด ขอให้ได้ผลงานตามเป้าหมาย ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม เหตุผลที่ผมต้องการสร้างทีมเล็กๆแต่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง เพราะว่าเราจะดูแลทุกคนในครอบครัวของเราให้มีความสุข อีกเหตุผลหนึ่งที่ต้องการให้จ้างฟรีแลนซ์ทำก็เพื่อที่จะรวบรวมคนที่มีความสามารถทางด้านนี้ และให้โอกาสได้แสดงผลงานในเวทีระดับโลก เพราะสิ่งที่เรากำลังจะทำเป็นเพียงการเริ่มต้น เป้าหมายที่วางไว้จริงๆคือเป็นบริษัทออกแบบและผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับสากล เช่น Samsung Sony Apple นี่เป็นที่มาของชื่อบริษัท กราวิเทคไทย เราจะรวมพลังวิศวกรไทย และพิสูจน์ให้โลกรู้ว่าคนไทยก็มีฝีมือและมันสมองในระดับสากล สามารถมีแบรนด์เป็นหน้าเป็นตาของประเทศชาติได้ ด้วยปัจจัยและทรัพยากรที่เรามีอยู่ ผมมีความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยพร้อมที่จะก้าวเข้าไปสู่วงการชั้นนำ ของอิเล็คทรอนิกส์โลก บริษัทเราจะดำเนินการแบบอเมริกัน มีการประชุมออกความคิดเห็นในทุกโครงงาน มีการ feedback ประเมินผลติดตามและให้รางวัลตามผลงาน ไม่มีคำว่าอาวุโสกว่า ทั้งทางด้านอายุจริง และอายุการทำงาน ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกัน